โรคถุงลมโป่งพอง เป็นโรคที่เนื้อปอดถูกทำลาย ส่งผลให้การแลกเปลี่ยนออกซิเจนลดลง ทำให้ผู้ป่วยมีอาการ หอบเหนื่อย หายใจลำบาก
“สาเหตุของโรค”
สาเหตุของถุงลมโป่งพอง ที่พบบ่อยที่สุด ได้แก่ การสูบบุหรี่ นอกจากนั้นยังอาจเกิดจาก การสูดดมสิ่งที่เป็นพิษ เช่น มลภาวะ ไอเสีย ฝุ่น สารเคมี เป็นระยะเวลานาน ๆ
โดยปกติที่แล้วทางเดินหายใจมีลักษณะเหมือนกับต้นไม้กลับหัว โดยกิ่งก้านต้นไม้เปรียบเสมือนหลอดลม และมีถุงลมต่อลงมาจากหลอดลมส่วนปลาย
ในคนทั่วไป หลอดลมจะโล่งและ เปิดอยู่ตลอดเวลา ส่วนถุงลมก็จะเป็นที่แลกเปลี่ยนออกซิเจนให้กับร่างกาย
ในผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งพอง ทางเดินหายใจ และถุงลมขาดประสิทธิภาพ การแลกเปลี่ยนอากาศจะเป็นไปได้ยากเพราะ
– ทางเดินหายใจ และถุงลมขาดความยืดหยุ่น ก๊าซจึงเข้าออกยาก
– ผนังของถุงลมบางส่วนถูกทำลาย จึงไม่สามารถแลกเปลี่ยนอากาศได้เต็มที่
– ผนังของหลอดลมหนาผิดปกติ และบวม อากาศจึงเข้าไปได้น้อย
– เซลล์ของทางเดินหายใจมักจะอักเสบ มีของเหลว และเมือกเกาะอยู่มาก จึงอุดกั้นทางเดินหายใจ อากาศเข้าไปยาก
“อาการ”
ในผู้ป่วยที่เป็นโรคถุงลมโป่งพอง ถุงลมและหลอดลมจะเสียความยืดหยุ่น ทำให้ลมที่จะเข้าปอดน้อยกว่าปกติ รวมทั้งการแลกเปลี่ยนออกซิเจนก็ลดน้อยลงด้วย
ผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้ในระยะเริ่มแรกมักจะไม่มีอาการ แต่ต่อมาเมื่อเป็นมากขึ้น อาการก็จะแสดงชัดขึ้นตามลำดับ โดยอาการสำคัญที่พบบ่อยๆ ได้แก่ หายใจลำบาก หอบ เหนื่อย และหายใจมีเสียงวี๊ด
“การรักษา”
ปัจจุบันยังไม่มีการรักษาใด ที่สามารถทำให้โรคถุงลมโป่งพองหายได้ แต่การใช้ยาจะช่วยให้ ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น และปอดถูกทำลายช้าลง